Newscurveonline.com : “โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” มองการระบาด COVID-19 รอบใหม่จะจบได้เร็ว ไม่กระทบอสังหาฯ ปี 64 โดยเฉพาะในบางโซน เผยพร้อมลุยตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง ปักหมุด 2 ทำเลศักยภาพเดิม “พัทยา -ขอนแก่น” ที่สร้างยอดขายเติบโตท่ามกลางวิกฤต COVID-19 โดยเฉพาะพัทยา รับแรงหนุนกระแสซื้อบ้านหลังที่สอง ดันยอดขาย “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” พุ่งเกือบ 350 ล้านบาท ทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาท รีโนเวตโรงแรม “โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ” ครั้งใหญ่ คาดแล้วเสร็จในครึ่งปีแรก 64
นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผยถึงทิศทางและโอกาสการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดปี 2564 ว่า มีแนวโน้มเติบโตที่ดีขึ้น แม้ไม่หวือหวา แต่มียอดขายอย่างต่อเนื่อง เพราะมีดีมานด์อยู่อาศัยจริงรองรับชัดเจน ไม่มีข้อจำกัดเรื่องราคาที่ดินที่สูงเช่นในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจที่ชี้ถึงการเจริญเติบโตของเมืองในหลายๆ มุม เช่น เป็นจังหวัดที่มีแหล่งรายได้จากหลายทาง เช่น เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ฯลฯ มีสนามบิน แหล่งการศึกษา เป็นต้น
ในปี 2565 จะมีปัจจัยบวกคือวัคซีนที่วิจัยสำเร็จ แม้ว่าขณะนี้จะมีสถานการณ์ COVID-19 ระบาดรอบใหม่ แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลน่าควบคุมได้เร็วกว่ารอบก่อน คาดว่าใช้ระยะเวลาไม่น่าเกิน 1 เดือน เพราะทุกภาคส่วนต่างก็มีประสบการณ์และเรียนรู้วิธีในการป้องกันตัวเองมาแล้วเป็นอย่างดี เพียงแต่ขณะนี้ทุกคนอาจจะยังตื่นตกใจซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องร่วมมือกันกลับมายกระดับมาตรการการดูแลป้องกันที่เข้มข้นมากขึ้นอีกครั้ง มองว่าอาจจะส่งผลกระทบแค่ระยะสั้นๆ และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 1
ในปี 2564 “โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ยังคงยึดกลยุทธ์รุกการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด เน้นตอบโจทย์ความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะ 2 พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงุทนแล้ว ได้แก่ ขอนแก่น และพัทยา ซึ่งเป็นพื้นที่พบว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจและมีการเติบโตสูง แม้จะเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมาก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นขอนแก่นซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจอีสาน ทั้งการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ หรือ “เมดิคัลฮับ” ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดคนจังหวัดใกล้เคียงให้เข้ามาในพื้นที่ส่งผลให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีชี้วัดในแง่ของกำลังซื้อสูงขอนแก่น จากตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดในภาคอีสาน 122,950 บาท/คน/ปี จะเห็นได้ว่าขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง จากยอดขายของโครงการ “โอเชี่ยน แกรนด์ เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น” มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ 8 ชั้น บนเนื้อที่ 1 ไร่ 266 ตารางวา มีจำนวนห้องพักอาศัย 236 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท หลังสถานการณ์คลายล็อกดาวน์ สามารถทำยอดขายเฉลี่ยเกินกว่า 10 ยูนิตต่อเดือน ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายวางไว้ โดยปัจจุบันมียอดขายแล้ว 40%
โครงการ “โอเชี่ยน แกรนด์ เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ – ขอนแก่น”
ขณะที่พื้นที่เมืองพัทยาถือเป็นหนึ่งในทำเลหลักของการพัฒนาโครงการ ซึ่งพัทยาได้รับแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากนโยบายเร่งเดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้ง EEC จะทำให้เมืองพัทยาเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างรวดเร็ว การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามา เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เมืองชายทะเลที่มีความมั่นงคงมากกว่าเดิม ขณะที่รถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีแผนพัฒนาสถานีพัทยาในรูปแบบ TOD จะเพิ่มศักยภาพของพัทยาเพิ่มขึ้น
ในช่วงปี 2563 แม้มีสถานการณ์ COVID-19 เพราะทำให้คนเริ่มตระหนักถึงการมีบ้านหลังที่สองเพื่ออยู่อาศัยและพักผ่อนไปด้วยในช่วงเวลาที่ไม่มีความปลอดภัยเกิดขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อบ้านหลังที่สอง หรือบ้านพักตากอากาศในแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะพัทยา สะท้อนจากยอดขายโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” มีการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2563 สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 350 ล้านบาท โดยพบกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่มีเงินเย็นและมีรายได้สูงเท่านั้น แต่ยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ทั้งนักธุรกิจรุ่นใหม่ อายุน้อย รวมถึงลูกค้าชาวจีนที่อาศัยและทำธุรกิจในประเทศไทย สนใจโครงการซื้อมากขึ้นด้วยที่คาดว่าจะปิดการขายห้องชุดพร้อมอยู่โครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่ถึง 10% แล้ว จากจำนวน 268 ยูนิต ได้ภายในปี 2565 อย่างแน่นอน ทำให้บริษัทฯ อาจพิจารณาที่จะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ เพราะยังมีที่ดินเหลือพัฒนาอีกเกือบ 100 ไร่
“บริษัทฯ ยังเตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท รีโนเวตโรงแรม “โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ” ครั้งใหญ่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกปี 2564 โดยคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าภาคอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวในพัทยาจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะพัทยามีโปรเจกต์ลงทุนค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงการ EEC ที่ภาครัฐให้การสนับสนุนและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อ 3 สนามบินคือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา” นายณพงศ์ กล่าวในที่สุด
โครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา”