Newscurveonline.com : จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ในทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในเชิงการแพทย์ โดยเฉพาะ “หน้ากากอนามัย” เริ่มหาซื้อได้ยากและไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในปัจจุบัน ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพราะประชาชนไม่สามารถป้องกันตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ก็เริ่มหาซื้อได้ยากขึ้น ส่งผลให้ กรมสรรพสามิต ออกประกาศ 2 ฉบับ เพื่อปลดล็อกให้ผู้ผลิตสามารถบริจาค หรือจำหน่ายแอลกอฮอล์เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงสาธารณสุขได้
ภาคเอกชน โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จึงได้ออกมาขานรับนโยบายภาครัฐ เร่งผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพื่อสนับสนุนการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 โดยส่งมอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ให้ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมี ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รับมอบจาก นายกมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ประชาชนตื่นตระหนกและกังวลว่าการแพร่ระบาดจะเข้าสู่ระยะที่ 3 คือการเริ่มระบาดเป็นวงกว้าง ไม่ทราบว่าใครติดจากใคร หรือแหล่งใดชัดเจน ซึ่งทีมแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุขต้องร่วมมือร่วมใจกันว่าเราจะเข้าระยะที่ 3 อย่างไร ให้ทุกคนปลอดภัย ด้วยการรณรงค์วิธีการดูแลตนเองที่ถูกต้องคือ การล้างมือบ่อย ๆ ด้วยการใช้สบู่กับน้ำล้างมือให้สะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์เจลที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป หลีกเลี่ยงเดินทางไปในที่มีผู้คนพลุกพล่านและอากาศไม่ถ่ายเท หากมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์ และแจ้งประวัติที่เป็นความจริง ส่วนวิธีการใช้หน้ากากอนามัยนั้น ใช้เมื่อเราป่วย หรือเมื่อเราต้องต้องอยู่ในที่แออัด เช่น รถไฟฟ้า และสิ่งสำคัญคือการรักษาระยะห่างกับผู้อื่น เวลาไอ จาม จะต้องล้างมือให้สะอาด ไม่จับหน้า จับตา หรือขยี้ตา เพราะจะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย
สำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ที่ได้รับมอบในครั้งนี้เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะใช้ในการป้องกันการติดเชื้อ เพราะเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อค่อนข้างดี ขณะที่ทุกสถานที่โดยเฉพาะสถานพยาบาลมีความต้องการใช้แอลกอฮอล์ในจำนวนมาก แต่ยังไม่ถึงขั้นขาดแคลน แต่การได้รับมอบแอลกอฮอล์ในวันนี้ก็จะช่วยเพิ่มการดูแลความปลอดภัยให้กับทีมแพทย์และประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
ทางด้าน ภญ.นันทพร เล็กพิทยา หัวหน้างานเภสัชกรรมคลินิก กล่าวว่า ปกติในโรงพยาบาลรามาธิบดีก็มีการใช้แอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกในแต่ละวัน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดไปหลายประเทศ ส่งผลให้มีอัตราการใช้ที่มากขึ้น การที่เราได้รับแอลกอฮอล์มาสนับสนุนทำให้มีทรัพยากรมากขึ้น ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความมั่นใจว่าจะมีทรัพยากรเพียงพอที่จะฆ่าเชื้อโรค เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น
