NewsCurveOnline.com : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลัง ททท. และองค์กรเครือข่ายธุรกิจ “ฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทย” เตรียมพลิกโฉมประวัติศาสตร์ “ฟู้ดทรัค” ทุบสถิติขบวนพาเหรดฟู้ดทรัค 121 คันที่รัฐฟลอริดา เมืองลุงแซม เมื่อปี 57 ระดมสมาชิกผู้ประกอบการในเครือข่ายกว่า 200 คันร่วมงาน “World’s Largest Parade of Food Trucks” ระหว่างวันที่ 7-8 มี.ค.63 ณ ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองธานี
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค หรือ Food Truck Club (Thailand) โดยนายชนินทร์ วัฒนพฤกษา ประธานและผู้ก่อตั้ง “ฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทย” ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน “World’s Largest Parade of Food TrucksW งานสตรีทฟู้ดระดับเวิล์ดคลาสและขบวนพาเหรดฟู้ดทรัคใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีกำหนดจัดงานในวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 ณ บริเวณริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อสร้างสถิติ “กินเนสส์ เวิล์ด เรคคอร์ด” ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลก
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค ส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารให้กับประเทศไทย มุ่งยกระดับมาตรฐานอาหารไทย ส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวเชิงอาหารไทย (Gastronomy Tourism) พร้อมสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความน่าสนใจดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยภาครัฐให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสตรีทฟู้ดไทย (Thai Street Food) หรือร้านอาหารริมทางให้เป็นรูปแบบฟู้ดทรัคมากขึ้น เริ่มจากโครงการ “ฟู้ดทรัค หนูณิชย์” ของกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัคของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เดินหน้าอย่างจริงจังครบห่วงโซ่อุปทาน ทั้งเครือข่ายผู้ประกอบการฟู้ดทรัคและเครือข่ายสนับสนุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง
ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า สตรีทฟู้ดของประเทศไทยมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติและเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องมาลิ้มลอง เพราะมีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพ รสชาติ ราคาสมเหตุสมผล และถูกหลักอนามัย ปัจจุบันกระแสความนิยมสตรีทฟู้ดไทยส่งผลให้กรุงเทพฯ เคยได้รับการจัดอันดับจากสำนักข่าว CNN ให้เป็นสตรีทฟู้ดดีที่สุด อันดับ 1 ของโลก โดย ททท. ได้ดำเนินงานส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ “มิชลิน ไกด์” จัดทำ “คู่มือมิชลิน ไกด์ ฉบับประเทศไทย” ที่มีการสำรวจและจัดทำคู่มือโดย “มิชลิน” เป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนต่อจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์อาหารไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น โดย ปัจจุบัน ททท. จัดทำคู่มือ “มิชลิน ไกด์” เป็นปีที่ 3 โดยกระจายสู่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูเก็ต พังงา และเชียงใหม่
นายชนินทร์ วัฒนพฤกษา ประธานและผู้ก่อตั้ง “ฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทย” กล่าวว่า องค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค เตรียมจัดงาน “World’s Largest Parade of Food Trucks” ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 ณ ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองธานี โดยได้เชิญ “กินเนสส์ เวิล์ด เรคคอร์ด” (Guinness World Records) มาร่วมเป็นสักขีพยานและบันทึกสถิติโลก เพื่อตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งของโลกเรื่องสตรีทฟู้ด โดยปัจจุบันฟู้ดทรัคคลับ ประเทศไทยมีสมาชิกผู้ประกอบการในเครือข่ายมากกว่า 700 แบรนด์ทั่วประเทศ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายสถิติขบวนพาเหรดฟู้ดทรัคที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 121 คัน ที่เคยสร้างสถิติไว้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2557 ณ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการจัดงานครั้งนี้จะมีรถฟู้ดทรัคเข้าร่วมทำลายสถิติและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จำนวนกว่า 200 คัน ภายในงานประกอบด้วย เทศกาลอาหารฟู้ดทรัค การออกบูทแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับฟู้ดทรัค งานฉลองรับรางวัลสถิติโลก การแสดงมินิคอนเสิร์ต การจับรางวัลชิงโชค ขบวนพาเหรดฟู้ดทรัคใหญ่ที่สุดในโลก การประกวดรถฟู้ดทรัค การแข่งขันการกินจุ พิธีมอบใบประกาศฯ โล่รางวัล ตลอดจนมีพื้นที่สำหรับให้คำปรึกษาและแนะนำแก่ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจฟู้ดทรัคเป็นของตนเองอีกด้วย
การจัดงาน “World’s Largest Parade of Food Trucks” มุ่งหวังสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมสร้างชื่อเสียงและเพิ่มศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย เพื่อให้ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่มีวัฒนธรรมทางอาหารที่หลากหลาย และตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลกต่อไป