Newscurveonline.com : “ทวิตเตอร์” ส่ง “Event page” ฟีเจอร์ใหม่ที่แสดงข่าวสารอัปเดทแบบเรียลไทม์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัส COVID-19 โดยหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาสังคม และสื่อมวลชน โดย Event page เป็นเพจข้อมูลที่แสดงอยู่ด้านบนสุดของไทม์ไลน์เมื่อเปิดใช้งาน “ทวิตเตอร์” ในโทรศัพท์มือถือและสามารถกดแท็ป explore สำหรับคอมพิวเตอร์ Event page ให้บริการทั้งในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้
“ทวิตเตอร์” มีบัญชีผู้ใช้งานที่สำคัญ ๆ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ หน่วยงานรัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และนักระบาดวิทยาเป็นจำนวนมาก โดย “ทวิตเตอร์” มีเป้าหมายในการยกระดับและกระจายข้อมูลด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
คัดกรองทุกบทสนทนา เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ในช่วงที่เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขก็ยิ่งทำให้เห็นถึงพลังของทวิตเตอร์ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของ “ทวิตเตอร์” ความรวดเร็วและไร้พรมแดนของ “ทวิตเตอร์” ทำให้เปิดโอกาสในการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ออกไปและทำให้ผู้คนมั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดจากแหล่งข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ทีมงานด้านความปลอดภัยและความเชื่อมั่นทั่วโลกของ “ทวิตเตอร์” ยังคงดำเนินวิธีการขั้นเด็ดขาดต่อการการบิดเบือนข้อมูลบนแพลตฟอร์มและความพยายามอื่น ๆ ในการกระทำที่ไม่เหมาะสมในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ “ทวิตเตอร์” ได้สร้างกฎด้านความปลอดภัยซึ่งรวมถึงคอนเทนต์ที่อาจทำให้ผู้คนเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ COVID-19 โดย “ทวิตเตอร์” ต้องการให้ผู้ใช้งานลบข้อความที่มีคอนเทนต์ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้อื่นติดเชื้อหรือแพร่เชื้อไวรัส ดังต่อไปนี้
- การปฏิเสธคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
- การยุยงส่งเสริมให้ใช้วิธีการรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ การป้องกัน รวมถึงในการวินิจฉัยโรคที่ไม่ถูกต้อง
- ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดโดยอ้างว่าเป็นข้อมูลจากเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญ

เครดิตทวีตจาก : https://twitter.com/TwitterSafety/status/1240418440982040579
เพิ่มการค้นหาแบบทันทีเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 ให้ใช้งานได้มากขึ้นทั่วโลก
เมื่อต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19 ที่มีความน่าเชื่อถือ ผู้ใช้งาน “ทวิตเตอร์” สามารถค้นหาได้จากช่องทางค้นหาทันที (Prompt search) ซึ่ง “ทวิตเตอร์” ได้เปิดตัวฟีเจอร์นี้ 6 วัน ก่อนการประกาศเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งผู้ใช้งานจะเห็นเนื้อหาจะอยู่ด้านบนสุดของช่องค้นหา ซึ่ง “ทวิตเตอร์” ยังคงตรวจสอบบทสนทนาเพื่อให้มั่นใจว่าได้มีการรวมทุกคีย์เวิร์ดเพื่อการค้นหา รวมถึงคำที่มีการสะกดคำผิดในช่องทางค้นหาทันทีอีกด้วย
ในประเทศไทย “ทวิตเตอร์” ได้ร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข (@pr_moph) และองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย (@WHOThailand) โดยฟังก์ชันใหม่นี้จะนำพาผู้ใช้งาน “ทวิตเตอร์” ไปยังแอคเคาท์ “ทวิตเตอร์” ของทั้งสององค์กร และเบอร์ติดต่อสายด่วนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทร.1422
“ทวิตเตอร์” ยังได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นแต่ละประเทศและจัดทำช่องทางค้นหาทันทีเกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งปัจจุบันใช้งานได้ใน 66 พื้นที่ รองรับได้ 27 ภาษา และทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐกว่า 60 แห่งทั่วโลก โดย “ทวิตเตอร์” พร้อมขยายขอบเขตช่องทางค้นหาทันที หากมีความต้องการในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น
ขยายต่อความร่วมมือและแชร์ข้อมูลสนับสนุนการวิจัย COVID-19
จากนโยบายการควบคุมเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมของ “ทวิตเตอร์” ซึ่งจะทำการระงับบัญชีชั่วคราวของผู้ที่ใช้โอกาสจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในการกำหนดเป้าหมายเพื่อการโฆษณาอย่างไม่เหมาะสม แต่ “ทวิตเตอร์” อนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลทางด้านสาธารณสุขได้โฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่อง COVID-19 โดยได้วางมาตรการป้องกันเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในการแชร์ข้อมูลด้านสาธารณสุขที่เชื่อถือได้และเพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้งาน ขณะนี้ได้ห้ามไม่ให้มีการโปรโมตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ COVID-19 และด้วยการตั้งราคาขายที่สูงเกินจริงในทั่วโลก
ข้อมูลของ “ทวิตเตอร์” ได้ถูกใช้ในการวิจัยทุกวัน และมีฮับข้อมูลของการวิจัยให้บริการข้อมูลแก่ผู้สนใจทั่วไป โดย “ทวิตเตอร์” เปิดกว้างต่อการนำข้อมูลไปใช้ในการสนับสนุนการวิจัย COVID-19 นอกจากนั้น ยังมีการดำเนินการพันธมิตรด้าน #DataForGood เพื่อประเมินว่าข้อมูลต่าง ๆ ของ “ทวิตเตอร์” นั้นสามารถสนับสนุนนักวิชาการและองค์การไม่แสดงหาผลกำไรได้นำไปใช้ในการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในปัจจุบันและในอนาคต
เราควรใช้ “ทวิตเตอร์” อย่างไรในช่วงเวลานี้?
หากคุณกำลังมองหาคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน “ทวิตเตอร์” ในช่วงเวลาเช่นนี้ ลองกดติดตามแอคเคาท์องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย (@WHOThailand) และกระทรวงสาธารณสุข (@pr_moph) เพื่อรับข้อมูลด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้และอย่าไปสนใจข้อมูลหลอกลวงอื่น ๆ โดยหากคุณพบเห็นข้อความใดที่มีเนื้อหาน่าสงสัยหรือไม่เหมาะสม กรุณารายงานมาที่ “ทวิตเตอร์” ได้ทันทีและที่สำคัญที่สุดคือคิดทบทวนให้ดีก่อนจะทวีตข้อความใด ๆ ออกไป
ทั้งนี้ ในทวิตเตอร์โมเม้นต์ ยังได้คัดเลือกข้อความที่มีเนื้อหาที่ยาวมากขึ้นเพื่อสามารถบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นรอบโลกให้คุณได้ติดตามอย่างครบถ้วนยิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับนักการศึกษาและพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน ก็สามารถศึกษาคู่มือการรู้เท่าทันสื่อซึ่งทวิตเตอร์ได้จัดทำขึ้นร่วมกับยูเนสโก(@UNESCO), ได้ที่นี่
“ทวิตเตอร์” ยังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมและจะคอยอัปเดตข้อมูลข่าวสารที่สำคัญอย่างต่อเนื่องในช่วงสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกดติดตาม ทีมงานด้านความปลอดภัย (@TwitterSafety) และนโยบายสาธารณะของ “ทวิตเตอร์” (@Policy)