Special Stories » COVID-19 แผลงฤทธิ์ CFO ส่อ “เลิกจ้าง” พนักงาน

COVID-19 แผลงฤทธิ์ CFO ส่อ “เลิกจ้าง” พนักงาน

21 เมษายน 2020
0

Newscurveonline.com : PwC เผยผลสำรวจความคิดเห็นของ CFO และผู้บริหารฝ่ายการเงินสหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก พบมีแผนเลิกจ้างพนักงาน หรือ สั่งพักงานเพิ่มมากขึ้น ชี้ CFO ส่วนใหญ่เลือกใช้มาตรการควบคุมต้นทุน ชะลอ หรือยกเลิกแผนการลงทุนหลังกังวลวิกฤติ COVID-19 กระทบต่อผลการดำเนินงานและสภาพคล่อง ด้าน PwC ประเทศไทย ประเมินมีบริษัทหลายรายที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงมาตรการเยียวยาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ แนะบริษัทไทยเร่งเตรียมแผนการไว้เผื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อในระยะยาว

PwC เผยผลสำรวจ COVID-19 CFO Pulse Survey ครั้งที่ 3 พบว่า 26% ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือ CFO (Chief Financial Officer) ในสหรัฐอเมริกาคาดว่า จะต้องมีการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจาก2 สัปดาห์ก่อนที่ PwC ทำการสำรวจความคิดเห็นของ CFO สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโกที่ 16%

ในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ COVID-19ยังคงยืดเยื้อต่อไปในปี 2563 ผลกระทบทางการเงินได้กลายเป็นปัจจัยความกังวลอันดับแรกในกลุ่มผู้บริหารฝ่ายการเงิน โดย 75% ของ CFO ชี้ว่า ตนมีความกังวลว่า วิกฤติ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท โดยในเวลานี้ 82% ของ CFO ได้มุ่งเน้นไปที่การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ 2 ใน 3 (67%) ของผู้ถูกสำรวจ ยังมีการพิจารณาที่จะชะลอ หรือยกเลิกแผนลงทุนที่วางไว้ โดยบริษัทส่วนใหญ่ต้องการควบคุมต้นทุนด้วยการชะลอการลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนเพื่อสินทรัพย์ทั่วไป รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บุคลากร และอื่น ๆ

นายทิม ไรอัน ประธาน และหุ้นส่วนอาวุโส PwC สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ในขณะที่ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสยังคงดำเนินต่อไป การพูดคุยกันในประเด็นเรื่องของกำลังแรงงานก็เปลี่ยนไปด้วย ผู้นำธุรกิจหลายรายที่ได้พูดคุยด้วยต้องการทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ เพื่อปกป้องพนักงานของพวกเขา อย่างไรก็ดี เราพบว่าการที่ธุรกิจประสบกับปัญหาการขาดกระแสรายได้ตามปรกติ ทำให้ผู้บริหารจำนวนมากตกอยู่ในที่นั่งลำบากที่ต้องตัดสินใจในเรื่องการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าในระยะต่อไปจะยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับหลายบริษัทที่จะหลีกเลี่ยงการไม่ลดจำนวนพนักงานท่ามกลางความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดที่ไม่มีใครรู้ว่าจะกินระยะเวลายาวนานเพียงใด

ทั้งนี้ แนวโน้มของการเลิกจ้างพนักงานที่เพิ่มขึ้นยังเห็นได้จากการที่ผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่ (81%) คาดว่า COVID-19 จะทำให้รายได้และ/หรือกำไรของบริษัทของตนลดลงในปีนี้ นอกจากนี้ สัดส่วนของผู้บริหารฝ่ายการเงิน (61%) ที่เชื่อว่า ธุรกิจของตนจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 3 เดือนหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สิ้นสุดลงทันที ก็ปรับตัวลดลงจากการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนด้วยเช่นกัน

ผลสำรวจ CFO ของ PwC ยังพบว่า ผลกระทบของการแพร่ระบาดต่อการจ้างงานในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นแตกต่างกันออกไป โดยผู้บริหารฝ่ายการเงินในกลุ่มบริการทางการเงิน (Financial Services) เพียง 13% เท่านั้นที่คาดว่า จะมีการเลิกจ้างเปรียบเทียบกับ CFO ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Industrial Products) ที่ 36% และตลาดผู้บริโภค (Consumer Markets) ที่ 30% ที่คาดว่าจะมีการเลิกจ้างมากกว่า

นางสาวเอมิที มิลไฮเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลูกค้า ของ PwC กล่าวว่า บริษัทต่างกำลังลดค่าใช้จ่ายและชะลอแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยี กำลังแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการลงทุนซื้อสินทรัพย์มาเพื่อใช้ในการดําเนินงานของบริษัท เพื่อให้สามารถผ่านพ้นพายุทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในครั้งนี้ไปให้ได้ ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดในครั้งนี้ธุรกิจจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การเติบโตในระยะยาว แต่ในเวลานี้พวกเขาถูกบีบบังคับให้คิดถึงสถานการณ์ในระยะสั้นและการปกป้องผลกำไรเป็นหลัก

ด้าน นายนิพันธ์ ศรีสุขุมบวรชัย หัวหน้าสายงาน Clients and Markets หัวหน้ากลุ่มลูกค้าธุรกิจครอบครัว และหุ้นส่วนสายงานภาษีและกฎหมาย บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นของ CFO ครั้งที่ 3 นี้ PwC ยังได้จัดทำผลสำรวจฉบับรวม (All countries’ findings) ซึ่งได้ทำการสอบถามมุมมองความคิดเห็นของ CFO จำนวน 824 รายในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีผู้ถูกสำรวจจาก 21 อาณาเขตและประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย อาร์เมเนีย, บราซิล, โคลัมเบีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ไอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, คาซัคสถาน, เม็กซิโก, ตะวันออกกลาง, เนเธอร์แลนด์, ฟิลิปปินส์, โปรตุเกส, สิงคโปร์, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา และไทยว่า CFO ส่วนใหญ่ (74%) ที่ถูกสำรวจเหล่านี้มีความกังวลต่อผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 ขณะที่ 80% คาดว่า รายได้ของพวกเขาในปี 2563 จะลดลงจากผลกระทบวิกฤติ COVID-19 สอดคล้องกับประมาณการทางเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF (International Monetary Fund) ที่คาดว่า รายได้ต่อหัวของประชากรในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกจะลดลงในปีนี้เช่นกัน

การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายกลายเป็นมาตรการสำคัญอันดับแรกที่ CFO ทั่วโลกรวมทั้งไทยนำมาใช้ในเวลานี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นอกเหนือไปจากการชะลอ หรือยกเลิกแผนลงทุน ในส่วนของผลกระทบต่อแรงงานในระยะสั้นนั้น ความกังวลของ CFO ยังคงเป็นเรื่องความสามารถในการผลิตที่อาจจะลดลงจากการปิดโรงงาน หรือหากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสในวงกว้าง ซึ่งนี่ยังส่งผลให้ต้องมีการสั่งพักงาน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานในบางกรณีด้วย

เป็นที่แน่ชัดว่าเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยังคงดำเนินต่อไป บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องวางแผนรับมือในช่วงภาวะวิกฤติ โดยในตอนนี้มีบริษัทหลายรายในไทยที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงมาตรการเยียวยาอื่น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของพวกเขา สำหรับบริษัทที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นบริหารจัดการภาวะวิกฤติและยังไม่มีแผนในการฟื้นฟูกิจการ ควรต้องเร่งสรุปแผนปฏิบัติการในระยะต่าง ๆ รวมทั้งเตรียมแผนระยะยาวไว้เผื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อด้วย” นาย นิพันธ์ กล่าวในที่สุด