
View of a young man in the focused foreground, teaming up with his girlfriend in the background in order to have as quick shopping as possible, considering they avoid spending time in public spaces because of the pandemic.
Newscurveonline.com : การระบาดของ COVID-19 ได้สร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลกทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ได้รับผลจากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แต่กลับกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับยอดขายและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะสินค้าที่มีอายุการใช้นานอย่างอาหารกระป๋อง
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 สหรัฐอเมริกา นำเข้าทูน่ากระป๋องเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีแรงผลักดันจากความตื่นตระหนก (Panic Buying) ของการระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ดีในช่วงไตรมาสที่ 2 กลุ่มสินค้าดังกล่าวยังคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคไม่ต้องการเดินทางไปร้านขายของชำ (Grocery) บ่อย ๆ และไม่ต้องการเลือกซื้อสินค้าที่มีอายุสั้นมาเก็บไว้ จึงเลือกซื้ออาหารกระป๋องที่มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานแทน นอกจากนี้ พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่บ้านซึ่งเพิ่มมากขึ้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าอาหารกระป๋องมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากทูน่ากระป๋องเป็นอาหารที่ชาวอเมริกันมีความคุ้นเคยและเป็นที่นิยม อีกทั้งผู้บริโภคต้องการที่จะลดความเสี่ยงจากการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน ทั้งการขาดแคลนเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ จึงได้เลือกซื้ออาหารทะเลกระป๋องซึ่งมีความเสี่ยงน้อยในเรื่องของการขาดแคลนมาทดแทน
สอดคล้องกับข้อมูลการส่งออกสินค้าทูน่ากระป๋องจากไทยมายังสหรัฐอเมริกา ของ กระทรวงพาณิชย์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 พบว่าไทยส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา มูลค่า 305.39 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.63 โดยมีคู่แข่งที่สำคัญคือ เอกวาดอร์ สเปน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และจีน จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้วิเคราะห์สถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋องในสหรัฐอเมริกาได้ว่า สินค้าอาหารกระป๋องถูกผลักดันให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เนื่องจากราคาไม่แพง มีอายุการใช้งานนาน เก็บรักษาสะดวก นอกจากนี้ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Food Bank) ต่าง ๆ ยังมีความต้องการอาหารที่ไม่เน่าเสียง่ายเพิ่มมากขึ้น จึงแสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดีต่อการขยายตลาดอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋องจากประเทศไทย รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องการว่างงานของชาวอเมริกันที่อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารทะเลกระป๋องในอนาคต
สำหรับผู้ส่งออกสินค้าไทยบางรายมีสินค้าที่เหมาะกับตลาดสหรัฐอเมริกาและผ่านการรับรองจาก US FDA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีเครือข่ายทางการค้า สามารถเข้าร่วมโปรแกรมจับคู่ทางธุรกิจ หรือ Online Business Matching (OBM) ได้โดยทาง สคต. ณ นครนิวยอร์ค จะรวบรวมผู้นำเข้าทั้งตลาด Mainstream Hispanic และ Oriental market เข้าร่วมโปรแกรม OBM เพื่อขยายการส่งออกสินค้ารูปแบบใหม่ตรงใจกลุ่มผู้บริโภคสหรัฐอเมริกาต่อไปในอนาคต